กำเนิดตำนาน
เรื่องราวของ F-16 ไม่ได้เริ่มต้นในห้องประชุม แต่เกิดจากการปฏิวัติทางความคิดที่ท้าทายกองทัพในยุคนั้น
The "Fighter Mafia"
กลุ่มนายทหารและนักวิเคราะห์ที่นำโดย จอห์น บอยด์ เรียกร้องให้สร้างเครื่องบินขับไล่ที่เรียบง่าย น้ำหนักเบา คล่องตัวสูง สวนกระแสเครื่องบินขนาดใหญ่และซับซ้อนในยุคนั้น
ทฤษฎี Energy-Maneuverability
หัวใจของแนวคิด คือทฤษฎี E-M ของบอยด์ ที่มองว่าเครื่องบินที่เหนือกว่าคือเครื่องที่ "จัดการพลังงาน" (ความเร็ว+ความสูง) ได้ดีกว่าคู่ต่อสู้ สร้างความได้เปรียบเด็ดขาดในการรบ
ชัยชนะของ YF-16
ในการแข่งขันโครงการ LWF เครื่อง YF-16 เอาชนะคู่แข่งด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า ต้นทุนต่ำกว่า และการใช้เครื่องยนต์เดียวกับ F-15 ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบใหญ่ด้านการส่งกำลังบำรุง
สมการแห่งความสำเร็จ: F-16 vs F/A-18
ความสำเร็จของ F-16 ไม่ได้มาจากการเป็นเครื่องบินที่ดีกว่าในทุกมิติ แต่มาจากปรัชญาการออกแบบที่ตอบโจทย์ตลาดส่วนใหญ่ของโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือกองทัพอากาศที่ปฏิบัติการบนบก ซึ่งไม่ต้องการแบกรับต้นทุนและข้อจำกัดของเครื่องบินบนเรือบรรทุกเครื่องบิน
เปรียบเทียบสมรรถนะหลัก
ปรัชญาที่แตกต่าง
F-16: เครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบา คล่องตัวสูงสำหรับฐานบินบนบก เน้นสมรรถนะสูงสุดต่อเม็ดเงินลงทุน
F/A-18: เครื่องบินอเนกประสงค์สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบิน เน้นความทนทานและความอยู่รอดในทะเลด้วย 2 เครื่องยนต์และโครงสร้างที่แข็งแกร่งกว่า
เศรษฐศาสตร์แห่งอำนาจทางอากาศ
F-16 มีทั้งราคาจัดหาและค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงบินที่ต่ำกว่า F/A-18 อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับกองทัพอากาศทั่วโลก นำไปสู่เครือข่ายผู้ใช้งานขนาดใหญ่ที่ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาและสร้างตลาดการอัปเกรดที่แข็งแกร่ง
เหยี่ยวแห่งสยาม
เรื่องราวของ F-16 ในกองทัพอากาศไทย คือกรณีศึกษาที่สมบูรณ์แบบของการใช้อากาศยานที่คุ้มค่าเพื่อรักษากองทัพอากาศที่ทันสมัย
ประวัติศาสตร์โครงการ Peace Naresuan
เลือกเหตุการณ์บนไทม์ไลน์
คลิกที่ปีบนไทม์ไลน์ด้านซ้ายเพื่อดูรายละเอียดของโครงการจัดหาและปรับปรุง F-16 ของกองทัพอากาศไทยในแต่ละช่วงเวลา
วิวัฒนาการที่ไม่หยุดยั้ง
ความสำเร็จที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษของ F-16 เป็นผลมาจากระบบการพัฒนาแบบ "Block" ที่ชาญฉลาดและไม่เคยหยุดนิ่ง